นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้ง หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช ขึ้นเมื่อปี 2566 ภายใต้นโยบายของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษที่มีภารกิจหลักในการสนับสนุนการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายทุกประเภท โดยมีเป้าหมายสำคัญในการกำกับ ดูแล และติดตามมาตรการควบคุมสินค้าเกษตรให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดจากขบวนการลักลอบดังกล่าว อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเกษตรและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช เพื่อควบคุมและบังคับใช้มาตรฐานสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะมาตรฐานบังคับที่มีความสำคัญต่อการส่งออกของไทย 2 ฉบับ ได้แก่ มกษ. 9046-2560 ว่าด้วยการปฏิบัติที่ดีในการผลิตทุเรียนแช่เยือกแข็ง เพื่อควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย ลดการตรวจพบเชื้อจุลินทรีย์และสารตกค้างซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกมูลค่ากว่า 30,000–50,000 ล้านบาทต่อปี และ มกษ. 1004-2557 ว่าด้วยหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมลำไยด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เพื่อให้สินค้าปลอดภัยและมีคุณภาพเป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและรักษาตลาดส่งออกที่มีมูลค่ากว่า 16,000–20,000 ล้านบาทต่อปี
จากการดำเนินงานระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2568 มกอช. ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการผลิตและแปรรูปทุเรียนแช่เยือกแข็งจำนวน 72 แห่ง พบว่ามีผู้ประกอบการบางรายไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานบังคับ จึงมีคำสั่งพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต พร้อมสั่งให้แก้ไขปรับปรุงเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล ขณะเดียวกัน ได้ตรวจสอบโรงรมลำไยสดรวมกว่า 58 แห่ง
พบการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดหลายราย จึงได้ดำเนินการทางกฎหมายและสั่งให้แก้ไขปรับปรุงทันที
เพื่อป้องกันการแจ้งเตือนจากประเทศคู่ค้าและลดความเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธการนำเข้า
ทั้งนี้ มกอช. ยังมีแผนการดำเนินงานในอนาคตที่มุ่งเน้นการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้และตรวจติดตามอย่างใกล้ชิด ตลอดจนบูรณาการการทำงาน
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งด้านทักษะใหม่ และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน
“มกอช. จะเดินหน้านโยบาย “สงครามปราบสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย” ตามแนวทางของกระทรวเกษตรและสหกรณ์อย่างจริงจัง โดยมุ่งหวังที่จะกำจัดการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรเถื่อนให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของเกษตรกรไทย รักษาภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก และสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจการเกษตรของประเทศในระยะยาว” เลขาธิการ มกอช. กล่าว