กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมนำเสนอศักยภาพและเสน่ห์ของสินค้าเกษตรไทยในงาน "สวัสดีโซลไทยเฟสติวัล: ดิสคัฟเวอร์ไทยแลนด์" จัดขึ้น ณ บริเวณคลองชองกเยชอน กรุงโซล เมื่อวันที่ 6 - 7 กันยายน 2568 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประชาสัมพันธ์งานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคการเกษตรของไทยในสาธารณรัฐเกาหลี
งานนี้ได้รับเกียรติจากนายดุสิต เมนะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล และแขกผู้มีเกียรติระดับสูงจากภาครัฐของเกาหลีเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ Ms. Seo Bihn อธิบดีด้านความร่วมมือทางวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ, นาย Kim Young Soo รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และนาย Yoo Sang-Burn สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ดร.อาภาพรรณ ชัฏไพศาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเกษตร ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรประจำกรุงโตเกียว (สปษ. โตเกียว) เข้าร่วมจัดงานในนามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในคูหาของกระทรวงเกษตรฯ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อคณะประธานและทูตอาเซียนเข้าเยี่ยมชมพื้นที่จัดแสดงของ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ที่นำเสนอโครงการในพระราชดำริและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งยังมีการจัดแสดงพรรณไม้และกิจกรรมดริปกาแฟจากยอดดอย ซึ่งได้รับคำชมจาก ส.ส. Yoo Sang-Burn ว่ากาแฟไทยมีรสชาติดีและน่าจะถูกใจชาวเกาหลี
นอกจากนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ยังได้จัดกิจกรรม Workshop สานปลาตะเพียนผ้าไหมไทย ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน รวมถึงการจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมฯ ซึ่งสื่อท้องถิ่นเกาหลีอย่าง Korean Times ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ด้าน กรมหม่อนไหม ก็ได้นำผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากไหมธรรมชาติเข้าร่วมจัดแสดง เช่น เครื่องสำอางและเสื้อผ้าที่ย้อมสีจากธรรมชาติ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวเกาหลีและชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน
ขณะที่ภาคธุรกิจก็เข้ามามีบทบาทสำคัญในงานครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดย สภาอุตสาหกรรมอุดรธานี ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ มหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป เช่น มันสำปะหลังและถ่านไม้ไผ่ เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าในเกาหลีใต้ และปิดท้ายด้วยการสนับสนุนจากผู้ส่งออกและร้านอาหารไทยในกรุงโซล ที่นำเสนอ มะม่วงน้ำดอกไม้ ซึ่งเป็นผลไม้ไทยที่ครองตลาดเกาหลีใต้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเกษตรไทยได้เป็นอย่างดี
ตลอดสองวันของการจัดงาน มีผู้เข้าชมงานในโซนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างคับคั่งตลอดทั้งวัน และตลอดทั้งงานมีผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 100,000 คน ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ สปษ. โตเกียว (สอท. โซล ฝ่ายการเกษตร) คาดหวังว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้กิจกรรมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้ประกอบการไทยเป็นที่รู้จักในตลาดเกาหลีใต้เพิ่มมากขึ้น