วันที่ 20 สิงหาคม 2568 นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำและงานก่อสร้างในเขต สำนักงานชลประทานที่ 5 โดยมี นายภัคภาค คุณะเกษม ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 5 พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่และรายงานผลการดำเนินงาน
การลงพื้นที่ครั้งนี้เริ่มที่ ประตูระบายน้ำสามพร้าว ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ระบายน้ำได้สูงสุด 114 ลบ.ม./วินาที พร้อมฝายกั้นลำน้ำห้วยหลวง ความยาว 79.75 เมตร สร้างขึ้นเพื่อป้องกันและบรรเทาอุทกภัย หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2543–2544
ช่วงบ่าย รองอธิบดีกรมชลประทานและคณะ ได้ประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการสำคัญ ได้แก่ ประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ระบายน้ำได้สูงสุด 2,500 ลบ.ม./วินาที สามารถเพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ฤดูฝน 72,500 ไร่ และฤดูแล้ง 18,100 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบลของอำเภอเชียงคาน รวม 44 หมู่บ้าน 9,287 ครัวเรือน รวมถึงจะเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และสถานที่ท่องเที่ยว
ส่วนโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ที่จังหวัดหนองคาย เป็นการก่อสร้างสถานีสูบน้ำบ้านแดนเมือง อัตราการสูบน้ำรวม 150 ลบ.ม./วินาที และปรับปรุงพนังกั้นน้ำเดิมฝั่งขวาตามแนวลำห้วยหลวง ความยาว 18.6 กม. รวมถึงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำใหม่ฝั่งซ้าย ความยาว 41.85 กม. และฝั่งขวา ยาว 29.34 กม. ตลอดจนสร้างอาคารบังคับน้ำตามลำน้ำห้วยหลวงและลำน้ำสาขารวม 14 แห่ง และโครงข่ายระบบชลประทาน จำนวน 13 โครงข่าย ครอบคลุมพื้นที่ 315,195 ไร่ แก้มลิงและอาคารประกอบ จำนวน 20 แห่ง พร้อมระบบควบคุมอุทกภัยอัจฉริยะ (Smart Flood Control System) ช่วยบรรเทาอุทกภัยในเขตจังหวัดหนองคายและอุดรธานี พื้นที่รับประโยชน์ 54,390 ไร่ ส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานเดิม 15,000 ไร่ และเพิ่มพื้นที่ชลประทานใหม่อีก 300,195 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 284 หมู่บ้าน 37 ตำบล 7 อำเภอ ของจังหวัดหนองคายและจังหวัดอุดรธานี โดยมีครัวเรือนที่ได้รับผลประโยชน์ 29,835 ครัวเรือน เป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อขยายพื้นที่ชลประทานในพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของรองอธิบดีกรมชลประทานในครั้งนี้ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้างและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ แม้โครงการบางแห่งจะยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ในช่วงฤดูฝนปี 2568 นี้ สำนักงานชลประทานที่ 5 ยังคงสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ปฏิบัติตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเคร่งครัด พร้อมติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้