การบริหารจัดการน้ำเป็นภารกิจสำคัญของกรมชลประทานที่ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้นทั้งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค การเกษตร อุตสาหกรรม
และรักษาสมดุลของระบบนิเวศ
รวมไปถึงปัญหาการบริหารทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืน
นายเดช
เล็กวิชัย รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา กรมชลประทาน เปิดเผยถึงทิศทางการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โดยยึดตาม 7 นโยบายหลักและ 23 แนวทาง
ภายใต้นโยบาย RID UNITED “ร่วมกันสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน”
ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการรับมือกับความท้าทายด้านน้ำและการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน
ครอบคลุมการขยายพื้นที่ชลประทาน การป้องกันภัยพิบัติ
การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ได้แก่
• การเร่งรัดเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้สมดุลกับปริมาณน้ำต้นทุน
กรมชลประทานตั้งเป้าขยายพื้นที่ชลประทานและพัฒนาแหล่งน้ำ
เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และชุมชน
โดยให้ความสำคัญกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของกรมชลประทานที่มีกว่า 3,000 โครงการ พร้อมปรับปรุงระบบส่งน้ำและการกระจายน้ำให้มีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงการพัฒนาโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน เพื่อรองรับการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน
โดยเฉพาะโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เช่น
เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ตลอดจนการส่งเสริมการปลูกพืชใช้น้ำน้อยที่ให้ผลผลิตที่มากขึ้น
• การบริหารจัดการน้ำ
ป้องกัน และบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ บนพื้นฐานข้อมูลที่ชัดเจน
เพื่อรับมือกับปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเชิงพื้นที่ในลุ่มน้ำสำคัญ
การประเมินความต้องการใช้น้ำล่วงหน้า พัฒนาการตรวจวัด
การจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ
นำเอาเทคโนโลยีหรือแบบจำลองทางอุทกวิทยามาสนับสนุนการคาดการณ์ปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า
เพื่อวิเคราะห์และวางแผนป้องกันล่วงหน้าสำหรับใช้เตือนภัย
เพื่อลดผลกระทบจากอุทกภัย
การวางแผนจัดสรรน้ำทั้งฤดูฝนและฤดูแล้งให้มีความแม่นยำและทันต่อเหตุการณ์
โดยยึดหลักตามมาตรการรับมือฤดูฝนและมาตรการรับมือฤดูแล้งที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติกำหนดอย่างเคร่งครัด
• การปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อสร้างความเข้าใจที่ดีของทุกภาคส่วนต่องานชลประทาน
ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร
เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนและเกษตรกรเข้าใจถึงเรื่องการบริหารจัดการน้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส
• การปรับปรุงการเข้าถึงข้อมูลน้ำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว
พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าถึงข้อมูลสถานการณ์น้ำได้ง่ายและรวดเร็ว
เน้นการนำเสนอข้อมูลที่เข้าใจง่ายและทันสมัย
• การรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลด้านน้ำอย่างเป็นระบบ
จัดตั้งศูนย์ข้อมูลน้ำ
(RID Data Library Center) และพัฒนาฐานข้อมูลกลาง
เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกหน่วยงาน
• การพัฒนานวัตกรรมการทำงาน
ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศ
เพื่อต่อยอดงานวิจัยหรือพัฒนางานตามภารกิจของกรมชลประทาน
รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI, IoT และโดรน
มาช่วยบริหารจัดการ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น
• การส่งเสริมให้บุคลากรพัฒนาและต่อยอดองค์ความรู้ของตนเอง
ส่งเสริมกลุ่มกำลังคนคุณภาพให้นำความรู้มาสร้างนวัตกรรมให้กับกรมชลประทาน
และสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ
มาปรับปรุงใช้กับภารกิจของกรมชลประทาน
นายเดชฯ
ย้ำว่า สายงานบำรุงรักษา
มุ่งเน้นพัฒนาระบบชลประทานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตามวิสัยทัศน์ “กรมชลประทานเป็นองค์กรอัจฉริยะ ที่มุ่งสร้างความมั่นคงด้านน้ำ (Water
Security) เพื่อเพิ่มคุณค่าการบริการ ภายในปี 2580” ซึ่งแนวทางทั้งหมดนี้ เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วน
ลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ และช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านน้ำ
สนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน